Social Media For Creative Artists Workshop Part 1 : ประสบการณ์ล้วนๆ
เมื่อวันอาทิตย์ (18 September 2011) ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเข้าร่วมเวิร์กชอป Social Media for Creative Artists เป็นส่วนหนึ่งของ "การชุมนุมทางความคิดประจำปี หรือ Creativity Unfold, 2011" (#Cu2011) คิดว่ามีประโยชน์ดี ก็เลยมาบันทึกเอาไว้ในบล็อกเผื่อจะมีประโยชน์กับใครต่อใครบ้าง![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZyP1TnRguIq92k7TiMyGvX8f5DYgB1f-GeweyYDeFyqjB_RfTdgtgEDG8YX5dUCB65A5dmmOB9AjuAmFqzX5xFP2MFZQGjIC0kom5aXcEaD90819MEcFdy8671NEAo3yMx-I-DWCO8ns/s400/RIMG0272.jpg)
ย้อนความไปที่การสมัครก่อน คือจริงๆ ตัว Creative space workshop ที่จัดขึ้นทั้งหลายแหล่เนี่ย เราสามารถเข้าร่วมได้ฟรี แต่ทางผู้จัดเขากำหนดกติกาเอาไว้นิดหน่อยว่า คุณจะต้องจ่ายเงินมัดจำกันเบี้ยวเอาไว้ก่อน 1000 บาทสำหรับคนทั่วไป และ 500 บาทสำหรับนักเรียน นักศึกษา แล้วถ้าคุณเข้าร่วมกิจกรรมจนจบ ก็จะได้เงินคืนไปเต็มๆ เป็นวิธีการที่ได้ผลดี เพราะเท่าที่ดูจากในห้องเรียนที่เราเข้า คนมากันแน่นห้อง และส่วนใหญ่ก็อยู่กันจนจบ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLa-BkmxUZEi6JFi-1Um_f1zg8W96Y2Kphivb0MnMlN3e-gfP-cB0nKayXBUfC88I5Kzc21NWtR8_J_jMBTM7_9QZm4P77Omt-gs_EQjIw1JEQhaaIZtYmxcTbgRaPEFMnv8kudiDHOVs/s400/RIMG0249.jpg)
พอได้รู้ข่าวเรื่องกิจกรรมนี้ก็รีบเปิดหา Workshop ที่น่าสนใจที่มีให้เลือกหลายแขนง เช่น ด้านการทำหนังสือก็อยากเข้าของ Computer Arts (สมัครไม่ทัน ฮือออ) ด้านหนังก็มีของเป็นเอก ว่าด้วยหนังใหม่ของแก "ฝนตกขึ้นฟ้า", Third Class Citizen ของพี่เต๋อพี่ต่อก็มาในหัวข้อ "อินดี้แต่แมส" สุดท้ายหาที่ลงตัวได้ก็คือ SM for creative artists อันนี้แหละ ส่วนวิธีการสมัครไม่ค่อยเข้าใจมาก เพราะฝากเพื่อนที่ทำอยู่ TCDC ช่วยสมัครให้ ก็ต้องขอบพระทัยมา ณ ที่นี้ด้วย :)
ตัดภาพมาที่ Workshop เลยละกัน กิจกรรมเริ่มต้นตอนบ่ายโมงตรง หนุ่มสาวก็ทยอยมาลงทะเบียนกันให้คึกคัก ทุกคนแบกโน๊ตบุ๊กมาคนละตัว (เป็นกติกาที่เขากำหนดเอาไว้) จากนั้นก็มาจับจองที่นั่งที่เขาจัดเอาไว้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ 8 กลุ่ม นั่งโต๊ะไหนก็จะได้ทำงานร่วมกับคนที่เผลอมานั่งโต๊ะเดียวกันนี่หละ
รอไม่นานกิจกรรมก็เริ่ม วิทยากรในช่วงแรกคือคุณ ธนบูรณ์ สมบูรณ์ (@aceimage) เจ้าของเว็บ Portfolios.net ที่พึ่งของคนสายครีเอทีฟในเมืองไทย การบรรยายในช่วงนี้จะเน้นเรื่องประสบการณ์ของวิทยากรมากกว่า เพราะเท่าที่ฟังคุณเอซแกก็คลุกคลีตีโมงและผ่านโลกดิจิตัลมาพอสมควร จนตกผลึกและเกิดเป็นไอเดียที่ทำให้เกิดเว็บอย่าง Portfolios.net รวมไปถึงเว็บไซต์ แฟนเพจ และแคมเปญในโลกดิจิตัลอีกเพียบ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8B5e0Ts5xgsjlU8uXWCRlOod_jVIqP_qLi_vh35nncdDgAQp3JpjSGFYcWmCKQT3I5xaPcRmXyY2VxjtUOBGlcODVeNUjknbFUXGnWEzK8ldYqp9VRO8ZmvzgJsT7PZOmbyfzfcE3EJo/s400/RIMG0261.jpg)
จบในส่วนของคุณเอซ พิธีกรก็ประกาศว่า พัก 15 นาทีนะคะ มีของว่างทานกันได้เลย เฮ้ย! เรียนฟรีมีของกินด้วย งานนี้ดีจริง ว่าแล้วฉันและคุณป๊อป (ผู้ที่รู้จักกันแบบบังเอิญจากทวิตเตอร์) ก็ไปต่อแถวโซ้ยของว่างกาแฟซะหน่อย เอาให้อิ่มทั้งสมอง อิ่มทั้งท้องไปเลย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEju1QCamQxXqYlQhDnSdoGjzRbumHT0OGf_4NzR1-gUPNd-fiW1IWdefe4YZKaf3h0ib_z2H9eogbNhJyfR3uImE4adeYKb8rQsCn0lxmb9-vjw2f2YlUzsmuZJBwIfgr4bV0j8GAlWVuM/s400/RIMG0274.jpg)
จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของวิทยากรรับเชิญ คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล (@jexep) มาสรุปรวบรัดแนวคิดเพื่อให้เราเข้าใจ Digital Culture ดียิ่งขึ้น ก่อนที่เราจะกระโดดลงไปเล่นกับมัน โดยคุณจิ๊บได้ยกตัวอย่างเคสที่ดังๆ ทั้งในระดับเมืองไทยและระดับโลกมาประกอบการบรรยาย บรรยากาศคล้ายการนั่งเรียนวิชามาร์เก็ตติ้งที่อาจารย์พูดเก่งๆ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj9pxWmetgnGokpfDmwEP6l-qix-2ywQJpt-roJvwiS81sdgKvNbfZ9vyZ5zM1DvZMgnrrOPWMQpASuHl88z4XgxRfLmfjjQu0TPDOb2jbpRIwaeTAIxK_MhB1Niyuw-dXTNKKweC9VQAw/s400/RIMG0291.jpg)
จบช่วงอาจารย์สอน ก็ต้องลงมือคิดและทำจริง เจ้าโต๊ะที่นั่งกันเป็นกลุ่มๆ ได้ใช้งานก็คราวนี้ แต่ละกลุ่มจะต้องเสนอเรื่องที่อยากจะใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการช่วยโปรโมท เพื่อให้เป็นที่รู้จัก โดยใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาสองสามชั่วโมงให้เต็มที่ กลุ่มเราได้ไอเดียจากพี่คนนึง เสนอเกี่ยวกับเรื่อง "ดินเดินทาง" คือพี่เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับเซรามิค และจากประสบการณ์ที่ได้เห็นในอเมริกา ที่นั่นค่อนข้างจะส่งเสริมให้เด็กๆ ได้จับดิน เล่นดินที่เป็นดินจริงๆ ไม่ใช่ดินสังเคราะห์อย่างดินน้ำมันและอื่นๆ พี่เค้าก็เลยลองคิดดูเล่นๆ ว่า งั้นเราน่าจะทำเป็นบริการเอาดินไปให้เด็กๆ เล่น ให้ปั้นกันให้เต็มที่ จากนั้นเราจะเอามาเผา มาเคลือบ แล้วก็ส่งให้เด็กๆ เป็นที่ระลึก
เราว่าน่าสนใจมากเพราะธุรกิจนี้มันเล่นได้จากหลายแง่ คือจะพูดในเชิงว่ามันเป็นสื่อการเรียนการสอนแบบใหม่ เป็นการส่งเสริมทฤษฎีการเรียนรู้ของเด็กก็ได้ เอาเรื่องธรรมชาติมาจับก็ได้ มุมของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นก็ได้ คือเอาจริงๆ ถ้าเอาโปรเจ็คต์มาเหลาให้คมๆ ล่ะก็น่าจะรุ่งได้ไม่ยากนะ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjXqH6-IaWuoAyJ247CoNe07ZoC94GHiSD6i7cMn_tt3RcaFmGEqNauBs7gsHFq_OmP9TgPrQfjAzvEOChongKFdLozh7IfvxoA2AalbPlB_V1OVy06JD9NvBZgmLT950B3mE9JvoJag7Y/s400/RIMG0297.jpg)
ทีนี้กลุ่มเราก็เริ่มระดมสมองกันว่า แล้วจะเอาโปรเจ็คต์นี้มาเล่นกับ Social Media ได้ยังไง ต่างคนก็ต่างเสนอกันมาหลายทาง อาจจะมีหลงประเด็นไปบ้างเพราะเราไปเสียเวลากับคอนเซ็ปต์ของธุรกิจมากไปหน่อยจนไม่มีเวลามาคิดเรื่องวิธีการสื่อสาร แต่ถ้ามองข้ามเรื่องนั้นไป ฉันว่ามันดีมากที่ได้ฟังความเห็นจากเพื่อนร่วมกลุ่มที่หลากหลาย ทุกคนมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ที่พร้อมจะแชร์ น่าเสียดายที่มีเวลาให้คุยกันน้อยไปหน่อย
หมดเวลาการประชุมกลุ่มก็ต้องออกไปนำเสนองานหน้าห้อง มีเวลานำเสนอกลุ่มละ 2 นาที (โฮ่ย!) เมื่อครบทุกกลุ่มวิทยากรทั้งสองท่านก็เลือกโปรเจ็คต์ผู้ชนะ ได้รางวัลเป็นคำแนะนำคอนซัลต์จากคุณเอซ 2 ชั่วโมง ซึ่งโปรเจ็คต์นั้นก็คือชุมชนคนรักหนัง Movie Museum ของกลุ่มที่นั่งข้างหลังเรา :)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEimKNNPcBdXL4PUsVQTtySK-vB_NhDc634Ssvkdx_PDwefPcGnpjf_8yaTTC7_JTembMPEeRNEyfqqeuDy8RoXL23abAfmEI4lpfXLSARuK0LuXGXsolfJRVe1VowuqCUQ2Wj2buL-buyc/s400/RIMG0304.jpg)
จบงานอย่างเป็นทางการ กลุ่มฉันก็มีการแลกเบอร์แลกนามบัตรกันให้คึกคัก ไอ้เราไม่มีนามบัตรกับเขาก็เขียนชื่อเขียนเบอร์ไปตามเรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้ติดต่อกันอีกหรือเปล่า อย่างไรเสียครั้งหนึ่งเราเคยได้ร่วมโต๊ะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ดวงชะตาเราคงต้องกันไปแล้วล่ะ ^^
พล่ามแพล่มมายาวเหยียด ทั้งหมดนั้นคือลำดับซีเควนซ์สิ่งที่เกิดขึ้นใน Workshop นะคะ ที่จะได้อ่านในบล็อกลำดับถัดไปคือเลคเชอร์ที่เราพิมพ์ไว้ล้วนๆ (Workshop ยุคดิจิตัลนี่นะ ก็ต้องบันทึกแบบดิจิตัล ฮี่ๆ) อ่านรู้เรื่องไม่รู้เรื่องอย่างไรก็ขอได้โทษสกิลชวเลขของข้าเจ้าด้วย
ขอให้ทุกท่านอิ่มเอมกับการเรียนรู้ :)