JP14 EP.4: Machi - เมือง

9:59 AM NidNok Koppoets 0 Comments

4. 

MACHI เมือง 




เกือบได้ไปนอนวัดแล้ว...

ตอนแรกที่วางแผนเที่ยว กะว่าจะปลีกวิเวกไปทดลองนอนวัดญี่ปุ่นที่ Koyasan หาข้อมูลเอาไว้ดิบดี ถึงขั้นเอาใส่ไว้ในแพลนเรียบร้อยแล้ว แต่ระหว่างที่หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็เจอเข้าให้ว่า ที่เมืองฮิโคเนะ จะมีกิจกรรมประจำเมืองเป็นขบวนพาเหรดใหญ่โต ตรงกับวันที่ 3 พ.ย. ที่เราอยู่ที่ญี่ปุ่นพอดี นั่งคิดอยู่นานว่าจะเอาไงดี สุดท้ายก็ตัดโปรแกรมการนอนวัดทิ้งไป เพราะวัดไทยมึงยังไม่ค่อยอยากจะเข้า แหมทำเป็นจะมาฮิปสเตอร์นอนวัดนอกประเทศ (จริงๆ คือเสียดายเงินค่านอนวัดอยู่เหมือนกัน หลายพันนะ) แล้วเปลี่ยนเส้นทางมาแอ่วฮิโคเนะให้โป๊ะเชะลงที่วันนั้นซะเลย 

ฮิโคเนะ (Hikone) เป็นอีกเมืองในจังหวัดชิงะ (Shiga) ที่อยู่รายล้อมรอบทะเลสาปบิวะ ซึ่งก็เพราะจะมาฮิโคเนะนี่แหละ ที่ทำให้เราไปใช้เวลาช่วงเช้าที่ Nagahama ก่อน เพราะว่าอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ และขบวนพาเหรดจะเริ่มเดินกันตอนบ่ายโมง 

ก่อนจะมามีความประทับใจต่อเมืองนี้อยู่นิดหน่อย คือจังหวัดชิงะมันไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตเท่าไหร่ รีวิวมีไม่เยอะ ข้อมูลที่เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษหาไม่ได้ง่ายเท่าเมืองดังๆ ในญี่ปุ่น อย่างขบวนพาเหรดนี่เราเห็นแค่ว่า เออมันมีทุกวันที่ 3 พ.ย. ของทุกปี แต่ไม่บอกอะไรมากกว่านั้นเลย เลยลองเสิร์ชหาทุกช่องทาง จนเจอแอคเคานท์คุณพี่คนหนึ่ง แกถ่ายคลิปวิดีโอขบวนพาเหรดนี้ไว้หลายปี และมีคลิปอื่นๆ ที่แนะนำการท่องเที่ยวในฮิโคเนะ เป็นโปรดักชันแบบบ้านๆ ออกแนวโฮมวิดีโอมากกว่า เราเลยอีเมลเข้าไปถามพี่เค้าแบบไม่คาดหวังเลยว่าแกจะตอบ 

ปรากฏว่าไม่ถึงวัน พี่เค้าก็ตอบอีเมลเรากลับมา พร้อมด้วยข้อมูลอัดแน่น บอกเวลาที่พาเหรดเริ่ม เดินจากตรงไหนไปตรงไหน ควรดูตรงไหน แนะนำให้เราเป็นอย่างดี เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ช่วยให้เราผู้ไม่รู้อะไรเลยอุ่นใจขึ้นมาเยอะเลยนะ 

เหยียบเมืองฮิโคเนะตอนเที่ยงพอดี จึงเดินหาอะไรกิน เพราะว่าตั้งแต่เช้าเพิ่งได้กินแซนด์วิชหมูทอด กับกาแฟกระป๋องรสชาติเหมือน้ำล้างหัวสิวที่เพิ่งบีบเสร็จ สุดท้ายก็เจอร้านเล็กๆ อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย เวรี่โลคัล เอาวะ กินที่ร้านนี้แหละ 

พอเปิดประตูเข้าไปในร้านน้องพนักงานก็เข้ามาต้อนรับด้วยมินนะ โนะ นิฮงโกะชุดใหญ่ อีนิดนกจึงตอบโต้ไปด้วยหน้าตาใบ้แดก แสดงสีหน้าว่าเข้าใจที่น้องพูดประมาณห้าคำจ้ะ น้องพนักงานถึงขั้นหน้าเหยเกขึ้นมาเลย อารมณ์ว่าเอาแล้วไงกู หันไปหาตัวช่วยแบบสุดแรงเกิด เราเลยบอกน้องเค้าว่าไม่เป็นไร เราพอรู้เรื่องนิดหน่อย ปล่อยพี่เข้าไปนั่งที่โต๊ะเถิด พี่หิว 

จากนั้นก็สั่งอาหารสิ้นคิดอย่างคัทสึด้งมารับประทาน เป็นคัทสึด้งที่รสชาติบ้านๆ ที่สุดเท่าที่เคยกินมา เหมือนอาม่าชาวญี่ปุ่นทำให้กิน พอมองเข้าไปในครัว ก็เออ อาม่าจริงด้วยเหวย เป็นร้านอาหารระดับครอบครัว ที่เหมือนแกตื่นลงมาทำ พอค่ำๆ ก็ขึ้นบ้านไปนอน 

กินเสร็จก็ยังไม่บ่ายโมง เลยไปเดินสำรวจเมืองอีกเล็กน้อย จนได้ยินเสียงแตรวงเสียงดังมาจากข้างหลัง เอาเว้ยยย พาเหรดมาแล้วววววว 


Parade of Little Edo เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลประจำปีของฮิโคเนะ (Hikone Castle Festival) เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม ยาวไปจนถึง 30 พฤศจิกายน เราโชคดีที่ไปตรงกับวันที่มันมีขบวนพาเหรดซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาลนี้พอดี ในขบวนจะเริ่มด้วยวงโยธวาทิตโดยเด็กนักเรียน มีสาวสวยประจำเมืองเดินโบกมือโปรยรอยยิ้มพิมพ์ใจ จากนั้นก็จะเริ่มตามมาด้วยชาวเมืองที่พร้อมใจกันแต่งกายในชุดย้อนยุคไปสมัยเอโดะ เป็นทหารบ้าง ซามูไรบ้าง เจ้าหญิง ตัวตลก คนลากรถ และเป็นชาวบ้านธรรมดา ซึ่งถามว่าเราสามารถแยกแยะการแต่งกายต่างๆ เหล่านั้นออกได้หรือไม่ว่าใครแต่งเป็นใคร ก็ไม่รู้หรอก แต่ว่าตื่นตาตื่นใจดี 

และอีกสิ่งที่เราตั้งใจจะไปทำเมื่อถึงฮิโคเนะ ก็คือการถ่ายรูปร่วมกับ "ฮิโคเนียน (Hikonyan)" มาสคอตประจำเมือง ออกแบบเมื่อปี 2007 เพื่อฉลองวาระที่ปราสาทฮิโคเนะครบรอบ 400 ปี ไอ้แมวนี่ดังมากๆ เคยติดเป็นหนึ่งในสิบมาสคอตชื่อดังของญี่ปุ่นเมื่อปี 2012 อาจจะสู้คุมะมงไม่ได้ (ปีนั้นคุมะมงได้ที่1) แต่เราชอบฮิโคเนียนมากกว่า เห็นหน้ามันแล้วรู้สึกอยากเตะ เพราะอีแมวสวมหมวกซามูไรมีเขานี่ชอบทำท่าเดินแป้นแล้นกวนประสาท เหมือนจะน่ารักแต่ออกไปทางยั่วโมโห จึงเขียนเอาไว้ในแพลนเลยว่า ข้าจะต้องถ่ายรูปคู่กับฮิโคเนียนให้จงได้ 

แต่เฟล... 

ฮิโคเนียนเปิดตัวมาช่วงกลางๆ ขบวนพาเหรด ซึ่งตรงกับที่เรายืนดูอยู่พอดี พอเห็นอีเแมวนี่เดินมา อีนิดนกก็สติแตก ตะโกนเรียก "ฮิโคเนียนๆๆๆ" แล้วก็ยื่นมือไปจับตัวมาสคอต แต่หน้าตาเราคงดูกร้านโลกเกินกว่าที่มาสคอตเซเลปจะเหลียวมอง จึงต้องพ่ายแพ้ให้กับเด็กๆ แถวนั้นที่กรี๊ดสติแตกพอกัน นี่ยังไม่รวมคุณป้าคุณลุง ที่ควักมือถือขึ้นมาถ่ายรูปมาสคอตแมว 100% Cotton กันให้ควั่ก ฮิโคเนียนได้ขโมยซีนขบวนพาเหรดสำเร็จแล้ว คุณลุงที่แต่งตัวเป็นนักรบด้านหลังรำพันขึ้นมาเบาๆ

ขบวนพาเหรดมันไม่ได้ยิ่งใหญ่เป็นทางการ เรียบเป๊ะทุกแถว มันมีไอของความบ้านๆ ลอยอบอวลอยู่ คือคนที่มาเดินก็เป็นไอ้เปี๊ยก ไอ้ต้น ที่เมื่อวานเล่นกระโดดยางกับเราอยู่ แต่วันนี้มันโดนจับแต่งหน้าแต่งตัว แล้วไปอยู่ในขบวน ไอ้นี่แค่ท่องสูตรคูณหน้าชั้นยังเขินเลย พอเราเห็นเพื่อนเราอยู่ในขบวนเราก็โบกมือให้ แล้วก็ตะโกน "กัมบัตเตะเนะ" ให้กำลังใจเพื่อนเรา เนี่ยคือสิ่งที่เราเห็นตลอดข้างทาง เพราะคนที่มาดูขบวนพาเหรดส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าเป็นเพื่อนร่วมเมืองนี่แหละ ทุกคนโบกมือให้ เรียกชื่อ "ชี่จังๆ คาวาอี้" ให้ลูกเพื่อนที่เดินอยู่ในแถว แม่ค้า ผู้จัดการร้าน เด็กเสิร์ฟ ใครต่อใครก็ทิ้งร้านแล้วออกมาโบกมือให้ ยังไม่รวมเด็กๆ ที่มานั่งเฝ้าดูแบบใจจดใจจ่อสุดๆ 

เราว่ามันเป็นอารมณ์เดียวกับตอนไปดูขบวนแห่เทียนพรรษาที่อุบลฯ อะไรแบบนั้นแหละ แห่เทียนของเรายังดูเป๊ะและอลังการกว่าของเค้าด้วยซ้ำ คือมันมองเห็นความเป็นเมืองที่คนและคนเชื่อมถึงกัน และคนกับเมืองก็ต่อกันติดด้วย เป็นสิ่งที่คนเมืองหลวงอย่างเราไม่ชินเท่าไหร่ เลยกลายเป็นโมเมนท์ประทับใจอันนึงของทริปนี้ไปเลย 

ยังไม่บ่ายสาม พาเหรดก็จบ ผู้คนก็กลับไปทำงานทำการของตัวเอง เหล่านักแสดง และคนเดินขบวนคงไปล้างเครื่องสำอางกันอยู่ ผู้มาเยือนอย่างเราก็ได้เวลาโบกมือลาเมืองน่ารักแห่งนี้ เสียดายที่ไม่ได้แวะเข้าไปชมปราสาทฮิโคเนะ แต่จริงๆ ตั้งใจเอาไว้แล้วล่ะว่าจะยังไม่ดู เพราะยังไงก็คงจะกลับมาเมืองนี้อีกถ้ามาญี่ปุ่นครั้งหน้า และพอยิ่งมาเจอเมืองในวันนี้ ยิ่งรู้สึกว่ายังไงก็จะต้องกลับมาอีกให้ได้ 

และที่สำคัญ คือหมดเงินไปหลายพันกับตุ๊กตาอีฮิโคเนียนเนี่ย มันใช่เรื่องมั้ยวะ หาาาาาาาา...










0 comments: